หลังคาโรงรถ และการเลือกวัสดุในการมุงหลังคาโรงจอดรถ

วัสดุที่นิยมใช้ในการมุงหลังคาโรงรถ

การเลือกใช้วัสดุในการมุงหลังคาโรงรถนั้นเราต้องพิจาราณาจากลักษณะโครงสร้างของหลังคาโรงรถเป็นส่วนประกอบด้วย เช่นโครงสร้างปูน ,เสาปูน การเลือกใช้หลังคากระเบื้องก็ดูจะเหมาะสม หรือหลังคาโครงเหล็กการเลือกใช้วัสดุแผ่นโพลีคาร์บอเนต หรือเมทัลชีทก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะจะประหยัดงบประมาณของเราด้วย

แผ่นโพลีคาร์บอเนต

แผ่นหลังคาโพลีคาร์บอเนตจะเป็นแผ่นหลังคาที่มีส่วนผสมของพลาสติก ซึ่งทำให้เบา ,สวยงาม และราคาถูก มักเป็นที่นิยมในงานตกแต่งหลังคาโรงจอดรถ และกันสาดบ้าน การติดตั้งสามารถติดตั้งได้ทั้งบนโครงเหล็ก ,โครงไม้ หรือโครงสแตนเลสก็ได้

แผ่นเมทัลชีท

แผ่นเมทัลชีทก็คือหลังคาเหล็กรีดนั้นเองโดยจะมีส่วนผสมของเหล็ก และเคลือบพวกสังกะสีการติดตั้งแผ่นชนิดนี้มักจะนิยมหุ้มฉนวนกันร้อนเพื่อลดเสียง และความร้อน 

แผ่นดีไลท์

ดีไลท์จะเป็นพลาสติกผสมใยไฟเบอร์ และพลาสติกทำให้มีลักษณะโปร่งแสงสามารถกรองแสงได้ดี แต่่จะทึบกว่าแผ่นโพลีคาร์บอเนต

แผ่นหลังคาชนิดอื่นๆ

แผ่นหลังคาโรงรถอื่นๆที่นิยมใช้งาน เช่นกระเบื้อง ,หลังคาไวนิล หรือหลังคาชิงเกิ้ลรูฟ ก็ได้รับความนิยมนำมาตกแต่งบ้านเช่นกัน

ควรเลือกหลังคาโรงรถแบบไหนดี และัชนิดของโครงสร้างหลังคาโรงรถ

ควรเลือกหลังคาโรงรถแบบไหนดี และัชนิดของโครงสร้างหลังคาโรงรถ

หลังคาโรงรถแบบไหนดี ? ในการทำหลังคาโรงรถสิ่งที่เราควรกำหนดคือ ขนาดของหลังคาโรงรถ และ จำนวนของงบประมาณที่จะต้องจ่าย ฉะนั้นเมื่อเราทราบแล้ว เราควรจะต้องใช้วัสดุในการทำหลังคาโรงรถให้เหมาะสมกับสิ่งที่เราคาดหวังไว้ โดยส่วนใหญ่แล้วโครงสร้างที่นิยมในการติดตั้งหลังคาโรงรถมีวัสดุอยู่ด้วยกันหลายๆชนิดเช่น  หลังคาโรงรถโครงไม้,หลังคาโรงรถโครงเหล็ก ,หลังคาโรงรถโครงสแตนเลส (ส่วนแบบอื่นๆเช่น หลังคาโรงรถโครงอลูมิเนียมคอมโพสิตนั้นพบได้น้อยมาก) และหลังคาโรงรถโครงสร้างปูน หรือเสาปูน

หลังคาโรงรถโครงสร้างไม้ 

หลังคาโรงรถแบบที่ใช้ไม้เป็นส่วนประกอบนั้นจะเป็นโครงหลังคาโรงรถที่ต้องอาศัยการออกแบบ และต้องมีช่างที่มีความชำนาญสูง งานถึงจะออกมาแบบปราณีต สวยงาม งานไม้สำหรับการทำหลังคาโรงรถนั้นจะนิยมใช้ไม้เนื้อแข็งมาเป็นส่วนประกอบ ไม้เนื้อแข็งที่ใช้นั้น เช่นไม้แดง ,ไม้เต็ง ,ไม้ประดู่ หากมีงบประมาณหน่อยก็เลือกไม้สัก การเลือกไม้เนื้อแข็งมาใช้งานนั้นควรจะต้องใช้ช่างที่ชำนาญด้านไม้มาคัดเลือก โดยเลือกไม้ที่มีลักษณะตรง ไม่คดงอ ไม่มีตำหนิเยอะ และที่สำคัญไม้ที่นำมาติดตั้งนั้นควรจะต้องแห้งสนิท หรืออบมาก่อนที่จะนำมาใช้งาน มิฉะนั้นไม้จะแตก หรือบิดงอได้ 

 หลังคาโรงรถโครงสร้างเหล็ก 

สำหรับหลังคาโรงรถโครงเหล็กนั้น เหล็กที่นำมาใช้มักจะเป็น เหล็กตัวซี ,เหล็กกล่อง ,เหล็กกลม และเหล็กบีม ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันตามชนิด ขนาด และความหนาของเหล็ก งานเหล็กควรทาสีกันสนิมก่อนทาสีจริงทุกครั้ง

 หลังคาโรงรถโครงสร้างงานสแตนเลส

หลังคาโรงรถโครงสแตนเลสนั้นส่วนใหญ่เรามักไม่พบตามบ้าน เพราะการออกแบบค่อนข้างยาก งานสแตนเลสไม่ค่อยเหมาะกับบ้านที่ได้รับการออกแบบสไตลส์โมเดิร์น ส่วนใหญ่จะพบตามตึกแถวอาคาร สำหรับการทำหลังคาโรงรถโดยใช้สแตนเลสนั้น มักจะนิยมใช้สแตนเลสเกรด 304 สำหรับงานภายนอก ข้อดีของงานสแตนเลสคือ ไม่เป็นสนิมทำให้เราไม่ต้องดูแลรักษา ข้อสำคัญในการใช้หลังคาโรงรถโครงสแตนเลส คือ เกรดของสแตนเลสต้องได้มารตฐาน

หลังคาโรงรถกันสาดไม้ระแนง

ควรทำหลังคาโรงรถแบบไหนดี และควรเลือกวัสดุในการทำหลังคาโรงรถแบบไหน

ควรทำหลังคาโรงรถแบบไหนดี

เป็นสิ่งที่หลายๆคนอยากรู้ว่า ควรทำหลังคาโรงรถแบบไหนดี ? ก่อนที่เราจะตอบคำถามนี้เรา

ควรต้องทราบว่า 

1.ขนาดของรถ  และจำนวนของรถที่จพนำมาจอดในโรงรถนั้นมีกี่คัน เป็นรถอะไร รถเก๋งหรือรถกะบะ

2.งบประมาณในการทำหลังคาโรงรถเราตั้งงบไว้เท่าไหร่

3.อยากจะได้แบบหลังคาโรงรถเป็นลักษณะอย่างไร

วัสดุที่นิยมในการทำหลังคาโรงรถในเมืองไทยมีอะไรบ้าง

การเลือกวัสดุในการทำหลังคาโรงรถนั้นมีหลายชนิด เช่นโครงสร้างหลังคาโรงรถ ,วัสดุมุงหลังคาโรงรถ

สำหรับการทำโรงรถนั้นจะมีอยู่ 3ส่วน คือ 

1.ฐานราก

2.โครงสร้าง

3.วัสดุในการทำหลังคา

การลงฐานรากของโรงรถ

การลงฐานรากนั้น เราต้องทราบว่าเราจะเลือกรูปแบบไหนในการทำหลังคาโรงรถ ถ้าใช้วัสดุโครงหลักๆ เช่น กระเบื้องไตรลอน โครงสร้างย่อมต้องรับน้ำหนักเยอะ ฐานรากควรต้องลงเข็มให้แน่นหนา จะลงแบบปูพรม หรือลงเป็นฐานรากแบบแผ่ก็ได้ แต่ถ้าทำโครงสร้างแบบเบาๆ เช่นการเลือกใช้โครงเหล็ก และหลังคาโพลีคาร์บอเนตอาจจะลงเข็มแต่เข็มหกเหลี่ยมก็ได้

โครงสร้างของโรงรถ

โครงสร้างของหลังคาโรงรถจะใช้วัสดุ คือ

โรงจอดรถโครงเหล็ก ,โรงจอดรถโครงสะแตนเลส ,โรงจอดรถโครงไม้ และโรงจอดรถโครงสร้างปูน ส่วนแบบอื่นๆ เช่น อลูมิเนียมคอมโพสิตมักจะไม่ค่อยได้พบเจอ

หลังคาโรงรถแบบไหนดี ?

ประแจชนิดต่างๆสำหรับอุปกรณ์งานช่าง

ประแจ (((Wrench)

เป็นอุปกรณ์งานช่างที่จำเป็นสำหรับการหมุนหัวน็อตที่มีลักษณะเป็นหัวน็อตรูปทรง 8 เหลี่ยมให้เข้าเกลียว เพื่อเป็นการยึดตัวน็อตให้แน่นยิ่งขึ้น ประแจส่วนใหญ่จะตีขึ้นมาจากเหล็กกล้า ซึ่งมีความคงทนและแข็งแรงกว่าเหล็กทั่วๆไป อีกทั้งยังผสมด้วยโครเมียม และวานาเนียม

เนื่องจากหัวน็อตนั้น มีหลากหลายรูปแบบ และหลากหลายขนาด ประแจจึงมีการผลิตขึ้นมาหลากหลายชนิด เพื่อใช้งานในแบบที่แตกตางกันไป

ประแจปากตาย

ประแจชนิดนี้ ทำขึ้นมาจากเหล็กเพียงชิ้นเดียว ไม่มีกลไกมากมายเหมือนประแจชนิดอื่นๆ ที่ปลายของทั้ง 2 ด้าน จะมีขนาดคงที่ไม่สามารถถอดประกอบหรือเปลี่ยนแปลงอะไรได้ อีกทั้งประแจปากตายยังสามารถจำแนกออกเป็นอีก 5 ประเภทคือ

ประแจแหวน

 ที่ปลายทั้ง 2 ด้านมีลักษณะเป็นวงแหวน และภายในวงแหวนจะมีเขี้ยวอยู่ประมาณ 6-12 เขี้ยว เพื่อใช้ในการจับแป้นเกลียวและสลักเกลียวให้กระชับและมั่นคงมากขึ้น

ประแจปากตายปากคู่

ปลายทั้ง 2 ด้านมีลักษณะเป็นรูปตัว U มีหลายขนาด เหมาะที่จะใช้งานในพื้นที่แคบๆ

ประแจรวม

ประแจชนิดนี้ เป็นประแจลูกผสมระหว่างประแจแหวน และ ประแจนปากตายปากคู่ ด้านหนึ่งจะมีลักษณะเป็นวงแหวน และอีกด้านจะเป็นรูปตัว U เพื่อสะดวกในการใช้งานกับแป้นเกลียวหลายๆแบบ

ไขควงสำหรับเครื่องมืองานช่าง

ในวิชาช่างนั้น หากเราจำเป็นต้องประกอบอุปกรณ์บางอย่างที่เป็นพลาสติกให้ยึดเข้ากับตัวผนัง เราควรใช้น็อตเป็นตัวยึด หากเราดันไปใช้อุปกรณ์อย่างตะปูล่ะก็ อาจจะทำให้ชิ้นส่วนที่เป็นพลาสติกอย่าง กล่องปลั๊กไฟ หรืออินเตอร์คอลพังเสียหายได้ อีกทั้ง น็อตเป็นอุปกรณ์ที่มีขนาดเล็กกว่าตะปูหลายเท่า ก็ไม่เหมาะที่จะใช้ค้อนไปตอก ดังนั้น อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในการขันน็อตเพื่อยึดติดชิ้นส่วนจำพวกนี้ให้เข้ากับผนังก็คือ ไขควงนั่นเอง

                ไขควง (Screw) เป็นเครื่องมืองานช่างที่มีไว้ขัน หรือคลายสกรู ที่มีหัวเป็นร่อง และตะปูเกลียว ลักษณะการใช้งานนั้น จะใช้จับด้ามและขันหัวน็อตให้หมุนยึดเข้าไปในรูปน็อต เพื่อยึดติดอุปกรณ์ชิ่นอื่นเข้าด้วยกัน โดยลักษณะของไขควงนั้นจะประกอบไปด้วย ด้ามจับ , ลำตัวหรือก้าน และสุดท้ายคือ ปากไขควง

                สำหรับชนิดของไขควงนั้น สามารถแยกออกเป็น 2 ชนิด ซึ่งแต่ละชนิดนั้นก็มีวิธีใช้งานกับน็อตที่แตกต่างกันไป เพื่อไม่ให้หัวน็อตเกิดความเสียหายหากว่าใช้ไขควงคนละชนิดหับหัวน็อต และเพื่อความสะดวกในการใช้งานด้วยส่วนหนึ่ง

ไขควงปากแบน (Flat Screw Driver)

• ลักษณะของไขควงชนิดนี้ จะเป็นไขควงหัวแบนคล้ายคมมีด มีไว้สำหรับใช้ขัน หรือคลายสกรูน็อตหัวฝังตรง

ไขควงปากแฉก (Phillips Screw Driver)

• ใช้ขันหรือคลายสกรูน็อตหัว 4 แฉก ซึ่งเป็นไขควงแบบมาตรฐานซึ่งสามาถรพบเห็นได้ทั่วไป เพราะส่วนใหญ่นั้น ไม่ว่าจะเป็นงานช่าง หรือการประกอบของเล่นที่ใช้น็อตเข้าช่วย มักจะใช้ไขควงชนิดนี้เป็นอุปกรณ์ในการขันน็อตทั้งสิ้น

สำหรับไขควงทั้ง 2 ชนิดนั้น จะมีขนาดตั้งแต่ 1-2 นิ้ว แต่ถ้าเป็นไขควงที่จำเป็นต้องใช้งานหนักๆ จะมีก้อนเหล็กฝังอยู่ในด้ามจับเพื่อใช้รองรับในการตอกและ ก้านจะเป็นสี่เหลี่ยมเพื่อรับน้ำหนักในการตอกกระแทก

 ส่วนไขควงแบบทั่วไปนั้น ที่ส่วนใหญ่ใช้ในการยึดติดกับพลาสติกที่เป็นกล่องปลั๊กไฟ จะใช้ไขควงที่มีด้ามจับเป็นพลาสติก เพื่อกันเวลากำลังขันน็อตใกล้ระบบไฟฟ้า หากเกิดไฟรั่ว ไฟฟ้าจะได้ไม่ช็อตที่มือเพราะด้ามจับนั้นเป็นพลาสติก ไม่นำไฟฟ้านั่นเอง และก้านนั้นจะเป็นก้านกล้ม

                สำหรับข้อควรระวังในการใช้ไขควงนั้น มีดังนี้ 

• เลือกขนาดปากไขควงให้เข้ากับร่องของสกรู
• ไขควงต้องสะอาด หลังจากการใช้งานควรเช็ด เพื่อไม่ให้ไขควงลื่นมือ
• อย่านำไขควงไปใช้งานผิดประเภทเช่น นำไปแกะสลักหรือนำไปแทงวัสดุ หรือแม้แต่ใช้เป็นอาวุธทำร้ายคนโดยเด็ดขาด
• หมั่นดูแลรักษา และเช็คสภาพปากไข

การจัดเก็บเครื่องมืองานช่าง เช่น สว่าน หรือค้อน

จัดของการทำความสะอาดเครื่องมืองานช่างของคุณอย่างสม่ำเสมอ หากคุณไม่ได้มีการจัดเก็บในสถานที่ที่เหมาะสมควรทำอย่างไร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ การเก็บในกล่อง ก็ง่ายต่อการหยิบใช้ง่ายจะพอเพียง หากคุณมีที่เก็บขนาดใหญ่ของเครื่องมืองานช่าง หรือใช้พวกอุปกรณ์เป็นมืออาชีพในการทำงาน, ตู้โลหะเป็นตัวเลือกที่ดี เครื่องมือควรจะจัดและจัดเรียงและนำกลับมาในพื้นที่ที่กำหนดของพวกเขาหลังจากที่ใช้กัน วิธีนี้ง่ายต่อการเลือกใช้เครื่องมือเสมอ เมื่อคุณต้องการพวกเขา จะเป็นการดีที่เครื่องมือจะไม่สัมผัสกัน

ควรเก็บอุปกรณ์งานช่างของมีคมไว้เป็นที่ทาง

บางบริษัทได้มีการพัฒนาระบบจัดเก็บข้อมูลเรื่องเครื่องมืองานช่าง โดยเก็บทั้งหมดของเครื่องมือของคุณในบริเวณที่แห้งเสียจากแสงแดดความชื้นฝุ่นและโดยตรง สำหรับเครื่องมือที่มีคมเช่นสิ่วให้ไว้ในช่องใส่เพื่อให้คุณจะไม่ได้โดยอันตรายจากการหยิบจับเมือนำสิ่ว หรือขวานออกมา อุปกรณ์งานช่างไม่ควรถูกทิ้งไว้บนพื้นดินหรือพื้นที่การทำงานตามที่พวกเขาสามารถก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรง พยายามที่จะจัดกลุ่มเครื่องมือของคุณร่วมกันในลักษณะที่ทำให้รู้สึกถึงคุณ

วิธีการดูแลของเครื่องมืองานช่าง และอุปกรณ์งานช่างของคุณ

วิธีการดูแลของเครื่องมือช่าง และอุปกรณ์งานช่างของคุณ

เครื่องมืองานช่างชุดที่ดีจะช่วยให้คุณทำงานได้รวดเร็ว คุณควรดูแลเครื่องมืองานช่าง และปกป้องพวกเขาไม่ให้เกิดกิดสนิมและความเสียหายโดยให้พวกเขาเก็บไว้อย่างเรียบร้อย เครื่องมือช่างที่มีคุณภาพสูงสามารถใช้เงินไม่น้อยในการซื้อ แม้ว่าหลายคนคิดว่าพวกเขาต้องการการบำรุงรักษาหรือดูแลไม่และโยนพวกเขาลงเข้าลิ้นชักหรือกล่องพลาสติกราคาถูก นี่คือลักษณะที่วิธีการที่เหมาะสมในการดูแลของไขควง และคีมของคุณและทุกเครื่องมือโลหะอื่น ๆ ที่จะทำให้พวกเขาใช้งานได้ยาวนาน

การทำความสะอาดเครื่องมืองานช่างหลังใช้งาน

เครื่องมืองานช่างทั้งหมดควรรักษาให้สะอาด ไม่ควรมีฝุ่นและเศษเล็กเศษน้อยซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายในช่วงระยะเวลาที่ยาวนานของเวลา หากอุปกรณ์งานช่างของคุณได้รับสกปรกหรือเปียกในระหว่างการใช้ใช้เวลาในการทำความสะอาดพวกเขาหลังจากนั้น เครื่องมือส่วนใหญ่สามารถทำความสะอาดด้วยแปรงขนอ่อนง่ายๆที่คุณเก็บอยู่ใกล้ตู้เครื่องมือของคุณ สนิมศัตรูหลักของโลหะสามารถก่อให้เกิดความเสียหายถาวรถ้าซ้ายไม่ถูกตรวจสอบ สนิมแบบฟอร์มจากความชื้นแม้ว่าคุณจะสามารถป้องกันไม่ให้มันมีอุปกรณ์งานช่างมากที่สุดโดยการใช้น้ำมันเช็ดที่เกิดสนิมได้ง่าย แต่จำไว้สนิมก็จะมีแนวโน้มที่จะปฏิรูปในพื้นที่นี้ในอนาคต หากคุณสามารถซื้อมันในการลงทุนในเครื่องมือที่ทำจากที่มีคุณภาพสูงโลหะผสมจะทำให้พวกเขาทนต่อการเกิดสนิมและการกัดกร่อน ในที่สุดการย้ายชิ้นส่วนใด ๆ ควรจะหล่อลื่นบางครั้งเพื่อให้เครื่องมืองานช่างอยู่ในการทำงานดี